หน้าเว็บ

วันพุธที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2556

สมมติฐาน


ประดอง กรรณสูต (2529: 3) กล่าวว่า สมมติฐานเป็นข้อเสนอเงื่อนไขหรือหลักการสมมติฐานที่อาจไม่เป็นจริงก็ได้ หน้าที่ของสมมติฐานก็คือ ช่วยชี้แนวทางในการค้นหาข้อเท็จจริง ความคิดซึ่งมีอยู่ในสมมติฐานอาจเป็นคำตอบของปัญหาที่มีอยู่แล้ว หรืออาจไม่เป็นก็ได้ ความคิดต่างๆที่สมมติฐานเสนอแนะไม่จำเป็นต้องถูกต้องเสมอไป อย่างไรก็ตามการวิจัยที่เริ่มต้นด้วยสมมติฐานที่แน่นอน ย่อมช่วยผู้วิจัยในการวางแผนเก็บรวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างดียิ่งขึ้น
องอาจ นัยพัฒน์ (2548: 44) กล่าวว่า สมมติฐานช่วยบ่งชี้แนวทางการกำหนดคุณสมบัติหรือคุณลักษณะของตัวอย่าง การสร้างเครื่องมือเก็บรวบรวมข้อมูล การเก็บรวบรวมข้อมูล ตลอดจนการเลือกใช้วิธีการทางสถิติเพื่อวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างเหมาะสมสอดคล้องกับหัวข้อปัญหาการวิจัย นอกจากนี้ยังช่วยจำกัดแง่มุมหรือขอบเขตของการศึกษาวิจัยให้มีความเฉพาะเจาะจงและรัดกุมยิ่งขึ้น ซึ่งส่งผลให้ประเด็นปัญหาการวิจัยที่ต้องการค้นหาคำตอบมีความชัดเจนยิ่งขึ้นตามไปด้วย
พรศักดิ์ ผ่องแผ้ว (2545: 208) กล่าวว่า คำว่า สมมติฐาน” มาจากศัพท์ภาษาอังกฤษคำว่า Hypothesis ซึ่งได้มาจากภาษาและมีรากศัพท์มาจากภาษากรีก hypo แปลว่า ข้อเสนอหรือข้อเสนอแนะ และศัพท์คำว่า hypotithenai แปลว่า ใส่ไว้ข้างล่าง
สมมติฐาน คือ ข้อความที่สมมติว่าเป็นจริงในประเด็นที่ต้องการพิสูจน์ ตรวจสอบหรือเป็นความคิดที่ก้าวหน้าในการอธิบายหรือทำนายปรากฏการณ์ทั้งหลาย
            สรุป
สมมติฐาน (Hypothesis) หมายถึง แนวทางในการหาข้อเท็จจริงที่เป็นคำตอบของการวิจัยซึ่งผู้วิจัยคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าอย่างมีเหตุผล โดยมีหลักการและทฤษฎีต่างๆรองรับ ซึ่งเป็นข้อความที่แสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรที่ศึกษาตั้งแต่ 2 ตัวแปรขึ้นไป ซึ่งการคาดการณ์หรือการคาดคะเนของผู้วิจัยนี้อาจจะถูกหรือผิดก็ได้ ซึ่งจะต้องมีการพิสูจน์โดยอาศัยวิธีการทางสถิติและข้อมูลเข้ามาช่วย นอกจากนี้สมมติฐานยังช่วยจำกัดขอบเขตของการศึกษาวิจัยให้มีความเฉพาะเจาะจงและรัดกุมมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
            ที่มา
            ประดอง กรรณสูต. (2529).  สถิติเพื่อการวิจัยทางพฤติกรรมศาสตร์. ปทุมธานี: บริษัท ศูนย์หนังสือ ดร.ศรีสง่า.
            องอาจ นัยพัฒน์.  (2548).  วิธีวิทยาการวิจัยเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพทางพฤติกรรมศาสตร์และสังคมศาสตร์.  กรุงเทพฯ : สามลดา.
            พรศักดิ์ ผ่องแผ้ว.  (2545).  ศาสตร์แห่งการวิจัยทางการเมืองและสังคม. (พิมพ์ครั้งที่ 5). กรุงเทพฯ: สมาคมรัฐศาสตร์แห่งประเทศไทย.
            พิชิต ฤทธิ์จรูญ.  (2544).  ระเบียบวิธีการวิจัยทางสังคมศาสตร์. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ราชภัฏพระนคร.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น